โครงงานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
1. หลักการทำงานของฮาร์ดแวร์
ในการทำโครงงานนี้ จะใช้
2. หลักการทำงานของสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงของเรานั้น จะมีทั้งหมด 3 สถานะหลัก ๆ คือ
เช่นเดียวกันกับใน
3. หลักการทำงานของ Node-RED dashboard
จากรูปข้างต้น สามารถแบ่งการทำงานของ
flow.get()
เพื่อที่จะนำไปส่งเข้ากับ UI widget ที่สร้างขึ้นมาเองผ่าน widget
      เป็นการนำแนวคิดของ LED Sensor หรือไฟเซนเซอร์ มารวมกับกล้องวงจรปิด คุณเคยเห็นไฟที่เปิดเองได้ไหม คนส่วนใหญ่ก็คงจะตอบว่าไม่ และถ้าอยู่ดีๆเราเห็นไฟมันติดเอง ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจ้องไปที่ไฟดวงนั้น แล้วคิดในใจว่า "เห้ย ผีหลอกเปล่าเนี่ย" ทำให้เรามีไฟอัตโนมัติใช้ในบ้านและสามารถใช้เป็นกล้องวงจรปิดที่มีโอกาสจับหน้าโจรที่แอบย่องเข้าบ้านคุณได้อีกด้วย
      เราใช้บอร์ด ESP32-S3 2 ตัว และ ESP32-CAM 1 ตัว โดยให้บอร์ด ESP32-S3 ตัวที่ 1 เชื่อมกับ IR Sensor ซึ่งจะใช้เป็นเป็นตัวตรวจจับวัตถุ เมื่อตรวจจับวัตถุได้จะส่งข้อมูลผ่าน MQTT Broker ไปยังระบบ IOT จากนั้นเมื่อบอร์ด ESP32-S3 ตัวที่ 2 ซึ่งเชื่อมต่อกับ Relay 5v ที่เป็นตัวควบคุมการเปิดปิดหลอดไฟ รับสัญญาณจากระบบ IOT จะทำให้หลอดไฟสว่างและส่งสัญญาณไปบอก user ผ่าน Node-RED Dashboard และ LINE Notify ในขณะเดียวกัน เมื่อ ESP32-CAM รับสัญญาณจากระบบ IOT จะทำการถ่ายภาพและส่งภาพไปให้ user ผ่าน LINE Notify จากนั้นเมื่อเซนเซอร์ไม่รับสัญญาณแล้วก็จะส่งข้อความไปบอกผู้ใช้งานผ่าน LINE Notify ว่าหลอดไฟดับแล้ว พร้อมบอกจำนวนหน่วยไฟที่ใช้งาน และคำนวณค่าไฟ ดังภาพ
ภาพตัวอย่างข้อความจาก LINE Notify
ภาพ flow ของ Node-RED (สามารถกด Save ภาพ เพื่อดูภาพที่ชัดขึ้นได้)
      โดย Node-RED Dashboard ของเราประกอบด้วยฟังก์ชันต่อไปนี้
      1.การแสดงผล โดยในช่อง เช็คสถานะหลอดไฟ จะแสดงให้เห็นถึงสถานะของหลอดไฟ ถ้าค่าเป็น 0 แสดงว่าไฟดับ ถ้าค่าเป็น 1 แสดงว่าไฟติดอยู่ ในช่อง เช็คสถานะเซนเซอร์ จะแสดงให้เห็นถึงสถานะของเซนเซอร์ ตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยทุกๆ 1 ค่า จะเป็นการหน่วงเวลาของเซนเซอร์ 0.1 วินาที
      2.ระบบคำนวณค่าไฟ โดยในช่อง ขณะนี้ใช้ไฟไปแล้ว (หน่วย) แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ได้ใช้ไฟไปแล้วกี่หน่วย โดยเราสามารถนำมาคำนวณค่าไฟได้ เมื่อนำค่าไฟต่อยูนิตของวันนั้นๆมาใส่ในช่อง ราคาไฟฟ้าต่อหน่วย จากนั้นจะแสดงให้เห็นถึงค่าไฟในช่อง จำนวนเงินที่ต้องชำระ (บาท)
      3.การเปิดปิดระบบไฟเซนเซอร์ เราสามารถควบคุมระบบไฟเซนเซอร์ได้ด้วยสวิตช์ หลอดไฟ 001 เมื่อทำการปิดสวิตซ์ ระบบไฟเซนเซอร์ก็จะหยุดทำงาน ไฟจะดับ และระบบจะหยุดนับหน่วยไฟ แม้มีวัตถุมาบังเซนเซอร์ ตัวบอร์ดก็จะไม่ส่งสัญญาณมายังระบบ IOT และเรายังมีปุ่ม ระบบตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ ซึ่งสามารถตั้งเวลาปิดของระบบไฟเซนเซอร์เมื่อถึงเวลาได้ วิธีการใช้งาน เช่น เราต้องการให้ระบบไฟเซนเซอร์ปิดการใช้งาน ณ เวลา 14:09 ก็ให้เราเลื่อนแถบ slider นาฬิกา (o'clock) ไปที่ 14 และแถบ slider นาที (minutes) ไปที่ 9 เมื่อถึงเวลา 14:09 สวิตช์ หลอดไฟ 001 ที่เปิดอยู่ก็จะปิดลง และระบบไฟเซนเซอร์ก็จะหยุดทำงานอัตโนมัติ
ภาพ Node-RED Dashboard
1. บอร์ด ESP32-S3 Devkit 2 ตัว :
      บอร์ดตัวที่ 1 ใช้ในการรับ ส่งข้อมูล จากเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุไปยังในระบบ IOT
      บอร์ดตัวที่ 2 ใช้รับข้อมูลจากระบบ IOT ที่ได้จากบอร์ดตัวที่ 1 แล้วแสดงผลออกมาผ่านหลอดไฟ ที่ควบคุมโดย relay
2. บอร์ด ESP32-CAM 1 ตัว : ใช้สำหรับถ่ายและส่งภาพ
3. หลอดไฟ 9 W 1 อัน
4. IR Sensor 1 ตัว : ใช้สำหรับตรวจจับวัตถุ
5. Relay 5v 1 ตัว : ใช้สำหรับควบคุมหลอดไฟ
6. SSD-1306 OLED Display 1 ตัว : ใช้สำหรับ debug
7. ESP32-CAM USB TTL CH340G 1 ตัว : ใช้จ่ายไฟและเชื่อมต่อ ESP32-CAM
เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยในปัจจุบันมีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก ทำให้กลุ่มของนิสิตต้องการทำเครื่องมือที่สามารถช่วยในการสังเกตสภาพอากาศในปัจจุบัน
ในโปรเจคนี้เราจะใช้บอร์ด micro controller ESP32S3 ในการสร้างสถานีตรวจสภาพอากาศ โดยจะตรวจวัดสภาพอากาศ ซึ่งคือ อุณหภูมิ ความดันบรรยากาศ ความสูงจากระดับน้ำทะเล และ สามารถส่งข้อมูลที่ได้รับมา โดยจะใช้เซ็นเซอร์ BMP280 ในการตรวจวัดข้อมูล และ แสดงข้อมูลที่ได้มาผ่านจอ OLED โดยมี Led 3 ตัวเป็นตัวระบุข้อมูลที่ส่งไปใน Mqtt โดยแบ่งตามสี RED = Pressure YELLOW = Temperature Green = Altitude และเราจะรับค่าความหนาแน่นของฝุ่น PM 2.5 จาก IqAir ผ่าน Api แล้วแสดงผลผ่าน Node-RED Dashboard
เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลากับการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน ทำให้คนที่ปลูกต้นไม้ที่บ้านไม่มีเวลา/ลืมรดน้ำต้นไม้ เราจึงคิดค้นเครื่องรดน้ำต้นไม้อันโตมันติที่สามารถตั้งเวลาและปริมาณน้ำที่รดได้
ในโปรเจคนี้เราจะออกแบบการรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติโดยการใช้บอร์ด esp32s3 เซนเซอร์ตรวจจับความชื้นของดิน สามารถเปิดปิดน้ำและตั้งเวลาได้โดยผ่านแอป และบอกข้อมูลสถานะ : ความชื้นในดิน(แสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์), ชื่อพืช(ตั้งเองได้) และ Pump Status(ON/OFF)
1.ESP32-S3 2 ตัว ตัวแรกใช้ควบคุมการเปิดปิดน้ำ และการตั้งเวลา ตัวที่สองใช้รับค่าสถานะจากตัววัดความชื้นและอุณหภูมิ
2.Water Pump ใช้ในการปั้มน้ำ
3.Relay ใช้ในการเปิด/ปิดคล้ายสวิทซ์ไฟ
4.สายยางรดน้ำ
5.Soil moisture sensor เครื่องวัดความชื้น
6.สายไฟฟ้า
7.Bread board
8.Switch(มีบนบอร์ด)
ในตอนกลางคืน เราเปิดเครื่องปรับอากาศระหว่างนอนหลับ และตั้งเวลาปิดแอร์ไว้เพื่อประหยัดค่าไฟ เมื่อเครื่องปรับอากาศดับลง อุณหภูมิในห้องก็จะสูงขึ้น ทำให้เรารู้สึกร้อนจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเปิดพัดลม เป็นการขัดจังหวะการนอน และทำให้เรารู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม เราจึงทำอุปกรณ์ที่สามารถเปิด-ปิดพัดลมอัตโนมัติ และควบคุมอุณหภูมิในห้องให้คงที่ได้ ปัญหาร้อนหรือหนาวเกินไปก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
การทำงานของอุปกรณ์นี้จะใช้บอร์ด ESP32-S3 ทั้งหมด 2 ตัว ดังนี้
บอร์ดแรก
จะติดตั้ง thermistor เพื่อใช้วัดอุณหภูมิภายในห้องเอาไว้ เราจะรับค่ามันมาและแปลงด้วยสูตรให้กลายเป็นองศาเซลเซียส จากนั้นก็จะทำการตรววจสอบเงื่อนไข ว่าเกินอุณหภูมิที่ได้ตั้งไว้หรือไม่ หากเกิน บอร์ดตัวนี้จะทำการส่งสัญญาณผ่าน mqtt ไปยังบอร์ดที่สอง
บอร์ดที่สอง
จะทำการรับค่าอุณหภูมิที่ส่งมาจากบอร์ดตัวแรก และทำให้ relay เปิดกลายเป็นวงจรที่สมบูรณ์ ทำให้พัดลมติดนั่นเอง
สำหรับ user เราได้สร้าง dashboard จาก Node-RED มีช่องที่สามารถใส่เพื่อกำหนดอุณหภูมิห้องที่อยากให้คงที่ได้ และมี gauge และตัวเลขแสดงอุณหภูมิห้อง ณ ขณะนั้น
*ดูไฟล์ README.html จะเห็นเป็นหน้าเว็บสวยๆ
พอการสั่งของออนไลน์มันทำได้สะดวกขึ้น ทำให้คนเรายิ่งจับจ่ายซื้อของมากขึ้นจนลืมไปว่าสั่งของมาไว้นานแล้ว บางคนถึงขั้นดองไว้หลายกล่องในลิ้นชักพัสดุจนนิติคอนโดงง เลยเกิดไอเดียที่จะมาช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีของเข้ามาใหม่ ทำให้เราไม่ลืมที่จะลงไปเอาของ
พอ ir sensor จับวัตถุที่ขวางได้(digitalRead ได้ค่าเป็น0) ก็จะส่งข้อมูลมาที่ ESP32S3 โดยเราจะใช้ arduino IDE เขียนโค้ดให้
1.บอร์ดหลัก publish ข้อมูลผ่าน mqtt broker(จะเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้ใน node-red อีกที เพื่อส่ง payload เข้า google form จะได้ google sheet ที่ real time ออกมาเพื่อไปทำหน้าเว็บแจ้ง history ต่อ)
2.ส่งline notification ด้วย ESP32S3
3.บอร์ดรองจะ subscribe topic ตัวเดียวกัน เพื่อแสดงผลผ่านหน้าจอ OLED
เคยเห็นการนำแนวคิดของ LDR Sensor มารวมกับเปียโนหรือไม่ คนส่วนใหญ่ก็คงจะตอบว่าไม่ และถ้าได้เห็นการเล่นเปียโนจากLDR คงจะน่าสนใจมาก
บอร์ดแรกจะทำงานเป็นเหมือนเปียโนโดยเราจะใช้ LDR 9 ตัว เมื่อระดับแสงต่ำกว่าที่กำหนด ก็จะทำการเล่นตัวโน้ตจากไฟล์ .wav ผ่านลำโพง laptop
บอร์ดสองจะเป็นเหมือน remote control โดยใช้ปุ่มทั้ง 3 ตัวในการควบคุม ปุ่มแรกจะใช้ตั้งค่าโหมดที่ต้องการเปลี่ยน โดยมี 2 mode คือ ค่าระดับแสงขั้นต่ำ (sensitivity) และเครื่องดนตรี (instruments) ตั้งค่าระดับแสงขั้นต่ำในการเล่นเสียงเพลง และตั้งค่าเครื่องดนตรีที่จะให้ laptop เล่นเสียง เช่น piano, guitar, violin เป็นต้น แล้วก็แสดงค่าทั้งหมดใน OLED
ใน Node red ก็จะแสดงระดับแสงของ LDR ทั้ง 9 ตัว ระดับค่าแสงขั้นต่ำ (sensitivity) และ เครื่องดนตรี (instruments)
github.com/inspirezuza/PianoButLDR
เพื่อพัฒนาระบบการจอดรถให้มีประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้เหล่าประชาราษฎร์ โดยใช้เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ ในการจัดการระบบการจอดรถสุดยอดอัจฉริยะ
ใช้ ESP32 เพื่อรับสัญญาณกับตัว Server(Node.js) ในการตรวจจับรถ(IR) ถ่ายภาพทะเบียน(Camera) และหน้าจอ โดยมีหน้าเว็บให้ใช้งานควบคู่กัน(React แสดง ที่ว่าง เงิน และบัญชี) ในส่วนของ Server จะรับหน้าที่ในการประมวณผลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การจดจำป้ายทะเบียน(AI img to text) ระบบข้อมูลผู้ใช้(Database) รับ และส่งข้อมูล(API - esp32 - Webbroser)
ในปัจจุบันนี้ เวลาไปห้างสรรพสินค้าหรือไปหาที่ว่างจอดรถส่วนใหญ่แล้วก็จะเจอปัญหาที่ว่าไม่สามารถหาที่จอดรถได้ จึงหาวิธีที่จะหาที่จอดรถที่ว่างอยู่เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้นโดยสามารถดูสถานะที่จอดรถได้ผ่านเว็บไซต์ หรือสามารถเห็นได้จากจอแสดงผลทางด้านหน้าที่จอดรถ โดยหลักการทำงานคือจะมีบอร์ดจำนวน 2 บอร์ด บอร์ดตัวที่หนึ่งจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุและจะส่งค่าออกไปยังเซิฟเวอร์ บอร์ดตัวที่สองจะรับค่าที่ส่งมาไปยังจอแสดงผล และมีเซ็นเซอร์ทำงานร่วมกับ Servo motor สำหรับไม้กั้นทางเข้า และใช้ Node-Red ในการแสดงข้อมูลผ่านเว็บไซต์
ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรงมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในเมืองหลวงและพื้นที่หัวเมืองภาคเหนือ เราจะได้ยินข่าวสารภัยผลกระทบสุขภาพจากมลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM2.5 เป็นประจำทุกปี
การตอบสนองกับปัญหามลภาวะทางอากาศในปัจจุบันได้เห็นการพัฒนาเครื่องมือวัดฝุ่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจวัดค่าฝุ่นที่อาจกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ตัวอย่างเช่น เซนเซอร์วัดค่าฝุ่น GP2Y1010AU0F ที่ถูกนำมาใช้ในการวัดค่าฝุ่น PM2.5 และ PM10 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีความน่าเชื่อถือสูงและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย
ในการทำโครงงานนีเราออกแบบให้มีเซนเซอร์วัดร์ระดับค่าฝุ่น PM2.5 พร้อมส่งค่าอ่านที่อ่านได้ไปยังบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32
การทำโครงการนี้ จะใช้บอร์ด ESP32 เพื่ออ่านค่าจากเซนเซอร์วัดค่าฝุ่น GP2Y1010AU0F และส่งข้อมูลไปยัง IoT ซึ่งจะถูกนำมาแสดงผลบนจอ OLED ของ ESP32 อีกบอร์ดหนึ่ง
โดย ESP32 จะทำหน้าที่เป็นตัวอ่านค่าจากเซนเซอร์ GP2Y1010AU0F และนำข้อมูลที่ได้ส่งผ่านไปยัง IoT โดยใช้โปรโตคอล ในที่นี้ผ่าน WIFI KUWIN-IOT
ในปัจจุบันเกมส่วนใหญ่เป็นเกมออนไลน์ที่เน้นการแข่งขันเป็นหลัก ทำให้เกิดความเครียด มีปากเสียงกับเพื่อน อาจทำให้จุดประสงค์ของการเล่นเกมของบางคนแทนที่จะเล่นกับเพื่อนเพื่อผ่อนคลายความเครียดกลับได้ความเครียดเพิ่มขึ้นมาแทน กลุ่มของผมเลยมีแนวคิดที่จะจัดทำเกมขึ้นมา โดยเป็นเกมที่สามารถเล่นกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนานด้วยอุปกรณ์ควบคุม 2 ชิ้นที่มีลักษณะแตกต่างกันไป ทำให้ต้องร่วมมือกันกับเพื่อนเพื่อข้ามผ่านอุปสรรคด้วยกัน จึงเกิดเป็นเกม Lost Temple Adventure ขึ้น ซึ่งตัวเกมเป็นเกมแนว 2D Platformer ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมคลาสสิคตลอดกาลอย่าง Super Mario ที่จะต้องวิ่งผ่านด่านและอุปสรรคไปจนถึงเส้นชัยให้ได้
เป้าหมายของเกมคือพาตัวละครไปถึงเส้นชัยด้วยการควบคุมจากผู้เล่น 2 คน
ผู้เล่นที่ควบคุมบอร์ดที่ 1 จะเป็นคนควบคุมตัวละครให้เดินไปทางซ้ายหรือขวา ด้วยการเอียงบอร์ดไปด้านซ้ายหรือด้านขวา หลังจากมีการเคลื่อนไหวในแนวแกน X Accelerometer จะอ่านค่าเข้ามาที่ ESP32 firmware ที่ลงไว้ที่ ESP32 ก็จะประมวลผลและ publish ทิศทางที่ผู้เล่นกำลังเคลื่อนไหวไปยัง MQTT Broker จากนั้น script ที่เขียนในภาษา C# ก็จะ subscribe รับข้อมูลทิศการเคลื่อนที่ของผู้เล่นจาก MQTT Broker และทำให้ตัวละครเคลื่อนที่ไปตามการเคลื่อนไหวของบอร์ดต่อไป
ผู้เล่นที่ควบคุมบอร์ดที่ 2 จะควบคุมการกระโดดและการโจมตี โดยการกดปุ่มบนบอร์ด โดยปุ่มหนึ่งจะเป็นปุ่มที่ควบคุมการโจมตี และอีกปุ่มหนึ่งควบคุมการกระโดด เมื่อปุ่มถูกกด ก็จะส่งข้อมูลให้ ESP32 publish สถานะการโจมตีและการกระโดดไปยัง MQTT Broker จากนั้น script ที่เขียนในภาษา C# ก็จะ subscribe รับข้อมูลการสั่งโจมตีและกระโดดของผู้เล่นจาก MQTT Broker และทำให้ตัวละครโจมตีหรือกระโดดตามคำสั่งต่อไป
ผู้จัดทำมีความเห็นว่า เวลาทำกิจกรรมที่แตกต่างกัน เราต้องการปริมาณแสงไม่เท่ากัน เช่นเวลาอ่านหนังสือ เวลาทำกิจกรรมปกติ เวลาพักผ่อน หรือเวลานอนหลับ รวมถึงเรื่องของสีของแสง โดยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความเหมาะสมของกิจกรรมนั้นๆ โดยผู้จัดทำต้องหลอดไฟ สามารถเพิ่มลดแสงได้ตามปริมาณ ณ จุดต้องการโดยอัตโนมัติ และสามารถเปลี่ยนสี โดยสามารถสั่งคำสั่งทั้งหมดจากโทรศัพท์ได้ *เพิ่มเติม เราจะมีฟังก์ชั่นในการให้ผู้ใช่สามารถตั้งค่า preset โดยเลือกค่าแสงและสีเก็บไว้ และตั้งชื่อ เมื่อกดปุ่ม preset จะสามารถตั้งค่าหลอดไฟเป็นค่าที่กำหนดไว้ก่อนได้
จะมีบอร์ด1ตัว ที่มี LDR ตรวจสอบความเข้มแสง ณ สุดที่อยู่ และ บอร์ด1ตัว ที่มีหลอดไฟ RGB โดยผู้จะ กำหนดค่าแสงที่ต้องการ และสี ผ่าน note red เข้า mqtt ค่าแสงที่ต้องการจะถูกส่งไปบอร์ด LDR เพื่อประเมินว่าจะต้องเพิ่ม/ลด ความเข้มแสงของหลอดไฟผ่าน mqtt ส่งเข้าบอร์ดที่มีหลอดไฟและสีของแสงจะถูกส่งจาก note red ผ่าน mqtt เข้าบอร์ดที่มีหลอดไฟ
ส่วนของ preset คือใช้ module list ใน note red โดยเมื่อมีการเซฟ preset จะถูกแสดงในหน้าต่างนี้ และเมื่อกดปุ่ม preset ที่ต้องการ note red จะส่งค่าสี และค่าแสงส่งไปเข้าบอร์ด ผ่าน mqtt
ส่วนของการสร้าง preset เราจะเก็บข้อมูลเมื่อกดปุ่ม apply จะเก็บข้อมูล ชื่อ ค่าแสง และสีของแสง เป็น grobal แล้วเก็บสี ค่าแสง และสีเป็นlist เข้า dict ที่มีkey เป็น ชื่อที่ตั้งไว้
__ในปัจจุบันเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ในอาคารและบ้านเรือนอยู่บ่อยครั้งซึ่งเกิดขึ้นจากการควบคุมสถานการณ์หรือไม่ทราบถึงเหตุการณ์ได้ทันเวลา ทางกลุ่มของเราจึงพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมา เป็นโครงการที่สร้างปอุปกรณ์เซฟตี้ ซึ่งตรวจจับ เปลวไฟ และ ควันไฟ ถ้าตรวจพบก็ออดเตือนภัยทำงาน ส่งข้อมูลไปยังมือถือของผู้ใช้และโทรแจ้งดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณืได้อย่างทันเวลา
__ให้บอร์ดตัวที่2ตรวจจับแก๊ส LPG ด้วยอุปกรณ์ MQ-2 และส่งค่าควันและแก๊สที่วัดได้ไปแสดงผลที่ Node-Red และส่งค่าแก๊สLPGไปที่บอร์ดที่1 ในส่วนของบอร์ดที่1จะทำหน้าที่ตรวจจับเปลวเพลิงผ่านอุปกรณ์ Flame Detector และรับค่าแก๊ส LPG จากบอร์ดที่2 แล้วนำมาประมวลผล หากประเมินว่าเกิดไฟไหม้,แก๊สรั่ว หรือทั้งสองอย่างจะทำการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังอีเมลของผู้ใช้ทันที
อิทธิเดช นามเหลา ไม่สามารถตื่นนอนภายในเวลาที่กำหนดได้ เพราะอิทธิเดช ชอบกดนาฬิกาแล้วไปนอนหลับต่อ ทำให้อิทธืเดชไม่สามารถตื่นไปเรียนทันได้ นอกจากนาย อิทธิเดชแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาคล้ายๆกัน ทำให้ทางตณะผู้จัดทำเล็งเห็นถึงปัญหาและต้องการหาวิธีการแก้ไข โดยการทำนาฬิกาปลุกที่ไม่สามารถหยุดปลุกได้โดยง่าย และไม่สามารถหยุดปลุกได้หากยังอยู่ใกล้นาฬิกา จึงเกิดเป็นนาฬิกาปลุกที่มีตัวหยุดปลุกแยกตั้งหาก และเพื่อเพิ่มความยากในการปลุกขึ้น ตัวหยุดปลุกเองจะเป็นเกมส์ที่จะแก้ก่อนเพื่อจะหยุดปลุก ไม่ใช่แค่กดปุ่มเฉยๆก็หยุด เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
ในโครงงานนี้เราได้ตัดสินใจออกแบบให้มีโมดูลแยกกัน 3 โมดูลด้วยกัน ประกอบด้วย 1) โมดูลนาฬิกาตัวกลาง ทำหน้าที่แสดงค่าเวลาที่รับมาจาก Node red และส่งเสียงปลุกเมื่อเวลาตรงกับเวลาตั้งปลุกที่ได้รับมาจาก Node red พร้อมส่งสัญญาณไปกระตุ้นการทำงานของโมดูลที่เหลือ 2) โมดูล QUIZ กดสีตามหลอดไฟ 4 สี (ไซมอน) มีหน้าที่เป็นมินิเกมส์ที่ผู้เล่นต้องกดสีตามลำดับที่กระพริบขึ้นมาจากหลอด LED เพื่อจะส่งสัญญาณที่จะหยุดการดังของนาฬิกา แต่เพียงตัวเดียวจะไม่สามารถหยุดได้ ซึ่งโมดูลสุดท้าย 3) โมดูล QUIZ การคูณเลขง่ายๆ เป็นโจทย์ที่มีช้อยสองข้อ การตอบถูกจะเป็นการส่งสัญญาณให้หยุดการดังของนาฬิกา เมื่อตัวหยุดสัญญาณของนาฬิกาได้ส่งมาทั้งสองตัว นาฬิกาจะหยุดดัง และเตรียมปลุกในเวลาต่อไปตามที่ได้ตั้งไว้
ในส่วนของ Node Red แบ่งออกเป็นห้าส่วน ดังรูป
ส่วนหน้า DASH BOARD ประกอบด้วย
ตัวตั้งเวลาปลุกเป็นชั่วโมงและนาที
ระดับความยากของ QUIZ 1
แสดงเวลาปัจจุบันที่ได้รับจาก RTC
1.ESP32-S3 DevKit 3 ตัว
บอร์ดตัวที่ 1 ใช้เป็นนาฬิกาปลุก
บอร์ดตัวที่ 2 ใช้เป็น Quiz กดปุ่มตามสีหลอดไฟ
บอร์ดตัวที่ 3 ใช้เป็น Quiz คูณเลขง่ายๆ
2.ลำโพงขนาดเล็ก 1 ตัว
3.ปุ่มกดขนาดเล็ก 2 ตัว
4.SSD-1306 OLED Display 1 ตัว
5.เซนเซอร์รับเสียง 2 ตัว
6.LED 4 สี 1ตัว
7.ปุ่มกด 4 ปุ่ม 4 สี 1ตัว
8.Seven Segment Display 4 digits 1ตัว
เนื่องจากเราได้เล็งเห็นถึงปัญหาของคนที่เดินทางในมหาวิทยาลับเกษตรศาสตร์ในชั่วโมงเร่งด่วนทำให้บางคนไม่สามารถวางแผนเวลาว่าควรจะรอรถตะลัยหรือซิ่งวิน15บาทไป
ติดGPS MODULE ที่รถตะลัยแล้วนำตำแหน่งมาแสดงบนแผนที่ด้วยGoogle Map และมีจอติดที่ป้ายโดยสารจะบอกระยะและเวลาของรถตะลัยที่ใกล้ที่สุด
เกิดจากการที่พวกผมอยากจะแก้ไขปัญหารถติดที่เกิดขี้นจากไฟจราจรภายในเมืองได้ตามสภาพการจราจร
ระบบไฟจราจรจะมีให้เลือก 3 โหมดโดยจะสาธิตไฟสีต่างๆด้วย led 3 สีและเวลาที่เหลือของไฟจราจรด้วยจอ oled
โดยระบบทั้งหมดจะควบคุมด้วย Node-Red Dashboard แล้วจะสามารถเปลี่ยนโหมดได้แต่ต้องรอไฟเหลืองขึ้นก่อนระบบจึงจะเปลี่ยนเป็นโหมดที่ต้องการเพื่อความปลอดภัยและจะแสดงผลใน Node-Red Dashboard ว่าขณะนี้ระบบกำลังอยู่ในระบบใดไฟกำลังขึ้นสีใด Bonus: ไฟจราจรจะมืดสว่างตามความสว่างรอบข้างตรวจจับจาก ldr เพื่อให้แสงไม่แซบตาขณะขับขี่และประหยัดไฟ